เมนู

พรรณนาวงศ์พระติสสพุทธเจ้าที่ 17



ต่อมาภายหลังจากสมัยของพระผู้มีพระภาคเจ้า สิทธัตถะ พระองค์นั้น
ก็ว่างพระพุทธเจ้าไปกัปหนึ่ง ที่สุดเก้าสิบสองกัปนับแต่กัปนี้ ก็บังเกิดพระพุทธ-
เจ้า 2 พระองค์ในกัปหนึ่ง คือ พระติสสะ และ พระปุสสะ บรรดาพระ
พุทธเจ้าทั้ง 2 พระองค์นั้น พระมหาบุรุษพระนามว่า ติสสะ ทรงบำเพ็ญ
บารมีทั้งหลายบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต จุติจากนั้นแล้ว ทรงถือปฏิสนธิใน
พระครรภ์ของ พระนางปทุมาเทวี ผู้มีพระเนตรงามดังกลีบปทุม
อัครมเหสีของ พระเจ้าชนสันธะ กรุงเขมกะ ถ้วนกำหนดทศมาส ก็
ประสูติจากพระครรภ์พระชนนี ณ อโนมราชอุทยาน. ทรงครองฆราวาสวิสัย
อยู่เจ็ดพันปี พระองค์มีปราสาท 3 หลัง ชื่อว่า คุหาเสละ นาริสยะ และ นิสภะ
มีพระสนมนารีสามหมื่นสามพันนาง มี พระนางสุภัททาเทวี เป็นประมุข.
เมื่อ อานันทกุมาร พระโอรสของพระนางสุภัททาเทวีสมภพ พระ-
มหาบุรุษทรงเห็นนิมิต 4 เสด็จขึ้นทรงม้าต้น ตัวเยี่ยม ชื่อว่า โสนุตตระ
ออกมหาภิเนษกรมณ์ ทรงผนวช มนุษย์โกฏิหนึ่งก็บวชตามเสด็จ พระองค์
อันภิกษุเหล่านั้นแวดล้อมแล้ว ทรงบำเพ็ญเพียร 8 เดือน ในวันวิสาขบูรณมี
เสวยข้าวมธุปายาสที่ธิดา วีรเศรษฐี ณ วีรนิคม ถวายแล้ว ทรงยับยั้ง
พักกลางวัน ณ สลลวัน ป่าต้นช้างน้าว (อ้อยช้างก็ว่า) เวลาเย็นทรงรับ
หญ้า 8 กำ ที่คนเฝ้าไร่ข้าวเหนียวชื่อ วิชิตสังคามกะ ถวายแล้ว เสด็จเข้าไป
ยังโพธิพฤกษ์ชื่อ อสนะ คือต้นประดู่ ทรงลาดสันถัตหญ้า กว้าง 40 ศอก
ประทับนั่งขัดสมาธิเหนือบัลลังก์หญ้านั้น ทรงกำจัดกองกำลังมารพร้อม
ด้วยตัวมาร บรรลุสัพพัญญุตญาณ ทรงเปล่งพระอุทานว่า อเนกชาติสํสารํ